เมนู

[445] ท่านรัฐปาละ ก็ความเสื่อมจากญาติเป็นไฉน. ท่านรัฐปาละ
คนบางคนในโลกนี้ มีมิตร อำมาตย์ ญาติสาโลหิตเป็นอันมาก ญาติเหล่านั้น
ของเขาถึงความสิ้นไปโดยลำดับ . เขาคิดเห็นดังนี้ว่า เมื่อก่อนเรามีมิตร อำมาตย์
ญาติสาโลหิตเป็นอันมาก [เดี๋ยวนี้] ญาติของเรานั้นถึงความสิ้นไปโดยลำดับ
ก็การที่เราจะได้โภคสมบัติที่ยังไม่ได้ หรือการที่เราจะทำโภคสมบัติที่ได้แล้วให้
เจริญ ไม่ใช่ทำได้ง่าย อย่ากระนั้นเลย เราพึงปลงผมและหนวด นุ่งห่มผ้า
กาสายะอออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตเถิด ดังนี้ . เขาประกอบด้วยความ
เสื่อมจากญาตินั้นจึงปลงผมและหนวด นุ่งห่มผ้ากาสายะ ออกจากเรือนบวชเป็น
บรรพชิต ท่านรัฐปาละ นี้เรียกว่าความเสื่อมจากญาติ. ส่วนท่านรัฐปาละ
มีมิตร อำมาตย์ ญาติสาโลหิตในถุลลโกฏฐิตนิคมนี้เป็นอันมาก ไม่ได้มีความ
เสื่อมจากญาติเลย. ท่านรัฐปาละ รู้เห็นหรือได้ฟังอะไร จึงออกจากเรือนบวช
เป็นบรรพชิตเสียเล่า. ท่านรัฐปาละ ความเลื่อม 4 ประการนี้ ที่คนบางพวก
ในโลกนี้ถึงเข้าแล้ว จึงปลงผมและหนวด นุ่งห่มผ้ากาสายะ ออกจากเรือน
บวชเป็นบรรพชิต ท่านรัฐปาละไม่ได้มีความเสื่อมเหล่านั้นเลย. ท่านรัฐปาละ
รู้เห็นหรือได้ฟังอะไร จึงออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตเสียเล่า.

ธัมมุทเทส 4



[446] ท่านพระรัฐปาละถวายพระพรว่า มีอยู่แล มหาบพิตร พระ
ผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น เป็นพระอรหันตสัมมาสัม-
พุทธเจ้า ทรงแสดงธัมมุทเทส 4 ข้อ ที่อาตมภาพรู้เห็นและได้ฟังแล้ว จึง
ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต. ธัมมุทเทส 4 ข้อเป็นไฉน คือ
1. ดูก่อนมหาบพิตร ธัมมุทเทสข้อที่หนึ่งว่า โลกอันชราน่าเข้าไป
ไม่ยั่งยืน ดังนี้แล อันพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น